มาทำความรู้จัก: P-Type vs N-Type แผงโซล่าเซลล์ ต่างกันอย่างไร?
ในยุคที่พลังงานสะอาดกำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของเรา โซล่าเซลล์ กลายเป็นหนึ่งในทางเลือกยอดนิยมในการประหยัดค่าไฟฟ้าและช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่รู้หรือไม่ว่าแผงโซล่าเซลล์ไม่ได้มีเพียงชนิดเดียว? ปัจจุบันเทคโนโลยีหลัก ๆ แบ่งออกเป็น P-Type และ N-Type ซึ่งมีข้อแตกต่างกันทั้งในแง่ของโครงสร้าง ประสิทธิภาพ และอายุการใช้งาน
แผงโซล่าเซลล์แบบ P-Type
ใช้ เลเยอร์ชนิด p (Positive) เป็นฐาน และมีเลเยอร์ชนิด n อยู่ด้านบน
เป็นเทคโนโลยีที่ใช้กันอย่างแพร่หลายและอยู่ในตลาดมานาน
ต้นทุนการผลิตถูกกว่าเมื่อเทียบกับ N-Type
ข้อจำกัด: อาจเกิดปัญหา LID (Light Induced Degradation) คือประสิทธิภาพลดลงเมื่อใช้งานไปนาน ๆ
แผงโซล่าเซลล์แบบ N-Type
ใช้ เลเยอร์ชนิด n (Negative) เป็นฐาน และมีเลเยอร์ชนิด p อยู่ด้านบน
มีประสิทธิภาพสูงกว่า P-Type เนื่องจากลดการสูญเสียพลังงานได้ดีกว่า
ไม่ค่อยเกิดปัญหา LID จึงคงคุณภาพการผลิตไฟฟ้าได้ยาวนาน
แม้ราคาจะสูงกว่า แต่ อายุการใช้งานยาวนานกว่าและให้ผลตอบแทนระยะยาวดีกว่า
เลือกแผงโซล่าแบบไหนดี?
หากมองเรื่อง ต้นทุนเริ่มต้นที่คุ้มค่า P-Type อาจตอบโจทย์
หากเน้น ประสิทธิภาพสูงและใช้งานระยะยาว N-Type จะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า
ไม่ว่าจะเลือกแผงโซล่าเซลล์ชนิดไหน สิ่งสำคัญคือการออกแบบระบบที่เหมาะสมกับการใช้งานจริง และเลือกผู้ติดตั้งที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ได้ผลตอบแทนสูงสุดจากการลงทุนในพลังงานสะอาด